รวมสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคกลางจ.กรุงเทพ+กาญจนบุรี+ฉะเชิงเทรา
หน้า 1 จาก 1
รวมสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคกลางจ.กรุงเทพ+กาญจนบุรี+ฉะเชิงเทรา
สถานที่ท่องเที่ยว
พระราชวัง พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด สถานที่จัดการแสดง
อนุสาวรีย์ สนามกีฬา สวนสนุก/สวนสัตว์ ย่านจำหน่ายสินค้า
:: พระบรมมหาราชวัง ::
รัชกาลที่ 1 ทรงย้ายราชธานีจากกรุงธนบุรีที่กรุงเทพฯ เมื่อ พ.ศ. 2325 ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังขึ้นใหม่ โดยให้ถือสร้างแบบกรุงศรีอยุธยา โดยประกอบด้วยพระมหาปราสาทพระราช มณเฑียรสถานและวัดพระศรีรัตนศาสดา รามมีเนื้อที่ 132 ไร่สร้างเสร็จสมบูรณ์ เมื่อปี พ.ศ. 2328
ในรัชกาลต่อๆมา ได้มีการสร้าง พระที่นั่งองค์ต่างๆ เพิ่มอีกหลายองค์ พระที่นั่งที่สำคัญๆในพระบรม มหาราชวัง ได้แก่ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท พระที่นั่งราชกรัณยสภา พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระที่นั่งอัมรินทร์วินิจฉัย พระที่นั่งดุสิตดาภิรมย์ หอศาสตราคม พระที่นั่งบรมพิมาน เป็นต้น
พระบรมมหาราชวังเปิดให้ชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 - 11.30 และ 13.00 - 15.30 น. ชาวต่างประเทศ เสียค่าเข้าชม คนละ 100 บาท ชาวไทยไม่เสียค่าเข้าชม
:: พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ::
เดิมชื่อพระที่นั่งอินทราภิเษกมหาปราสาท เป็นพระมหาปราสาท องค์แรกที่สร้างขึ้นในพระราชวัง เป็นที่ประดิษฐาน พระบรมศพพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระอัครมเหสี และพระบรมวงศานุวงศ์ ใช้ ประกอบพระราช พิธีสำคัญ เช่น พระราชพิธีการมงคล และบำเพ็ญพระราชกุศลต่าง ๆ
:: พระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ::
อยู่ใกล้กับพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทใช้เป็นที่ประทับทรงพระราชพาหนะ และประทับเปลื้อง เครื่องในงานพระราชพิธี ที่มีขบวนแห่
พระบรมมหาราชวังพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาทพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
:: พระที่นั่งพิมานรัตยา ::
สร้างเมื่อ พ.ศ. 2332 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เป็นที่บรรทม และ ทรงใช้เป็นที่ชุมนุม มหาสมาคมสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชบริพารฝ่ายในเข้ารับพระราชทานเครื่องอิสริยยศ และเครื่องราช อิสริยาภรณ์ และนอกจากนั้นยังเป็นที่สรงน้ำ พระบรมศพพระบรมวงศานุวงศ์ ก่อนที่จะประดิษฐาน พระบรมโกศใน พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
:: พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ::
สร้างในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2419 ใช้เป็นที่รับรอง พระราชอาคันตุกะชั้น พระราชาธิบดี หรือชั้นประมุขของรัฐ นอกจากนี้ยังมีหมู่พระที่นั่งสำคัญอื่น ๆ เช่น พระที่นั่งราชกรัณยสภา พระที่นั่งมูล สถานบรมอาสน์ พระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ พระที่นั่งบรมราชสถิตย์มโหฬาร พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ฯลฯ
:: พระที่นั่งอนันตสมาคม และรัฐสภา ::
สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นอาคารหินอ่อน แบบอิตาลีทั้งนี้ มีพระราชประสงค์ที่จะสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่รับรองแขกเมือง และประชุมปรึกษาราชการแผ่นดิน พระที่นั่งนี้สร้างเสร็จใน สมัยรัชกาลที่ 6 บนเพดานโดมของพระที่นั่งมีภาพเยนสีที่ สวยงามมาก
เป็นภาพเกี่ยวกับ พระราชกรณียกิจที่สำคัญ ของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 - 6 แห่งราชวงศ์จักรี พระที่นั่งอนันตสมาคม ใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีและรัฐพิธีต่างๆ และเคยเป็นที่ประชุมสภา แต่เมื่อได้มี การสร้างตึกรัฐสภาใหม่ ซึ่งอยู่ด้าน หลังของพระที่นั่งนี้ การประชุมรัฐสภาจึงได้ย้ายไป ประชุมที่ตึกรัฐสภาใหม่ ส่วนพิธีเปิดประชุมรัฐสภาจะกระทำที่ พระที่นั่งอนันตสมาคม
พระที่นั่งอนันตสมาคม และรัฐสภาพระที่นั่งวิมานเมฆวังสวนผักกาด
:: พระที่นั่งวิมานเมฆ ::
ตั้งอยู่บริเวณหลังพระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นพระราชวังที่ทำจากไม้สักทองทั้งหลัง เดิมตั้งอยู่บนเกาะสีชัง สร้างขึ้นใน สมัยรัชกาลที่ 5 และได้ชะบอมาไว้ ณ สถานที่ตั้งปัจจุบัน เมื่อ พ.ศ. 2444
ภายในพระที่นั่งประกอบ ด้วยห้องต่างๆ 81 ห้อง มีคลองล้อมรอบอาทิ คลองคาบแผ่นกระจก คลองรางเงิน อ่างหยก ภายในบริเวณร่มรื่นสวยงาม พระที่นั่งวิมานเมฆ
เปิดให้ชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. ค่าเข้าชมคนละ 50 บาทรวมค่าเข้าชม พระที่นั่งอภิเษกดุสิต และพิพิทธภัณฑ์รถม้าพระที่นั่ง ซึ่งอยู่ในบริเวณ เดียวกัน รายละเอียดติดต่อ โทร. 2811569, 2811518, 2816880
:: วังสวนผักกาด ::
ตั้งอยู่ที่ถนนศรีอยุธยา เป็นที่ประทับของกรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิ์พินิจ และ ม.ร.ว.หญิงพันธุ์ทิพย์ บริพัตร ประกอบด้วย หมู่เรือนไทยท่ามกลางสวนที่สวยงาม รวมทั้งจัดแสดงศิลปวัตถุโบราณ บางส่วน จัดทำเป็น พิพิธภัณฑ์โขน
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย คนละ 50 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 245-4934
จ.กาญจนบุรีสถานที่ท่องเที่ยว
:: สุสานทหารสหประชาชาติ ::
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแควน้อยบริเวณท่าน้ำเมืองกาญจนบุรี เคยเป็นที่ตั้งของค่ายเชลยศึกขนาดใหญ่ บริเวณสุสานสงบและ สวยงาม บรรจุศพทหารเชลยศึกซึ่งส่วนใหญ่เป็น ทหารอังกฤษประมาณ 1740 หลุม
:: สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก ::
ตั้งอยู่ริมถนนแสงชูโต (ทางหลวงหมายเลข 323) ก่อนจะเข้าตัวเมือง สุสานแห่งนี้เป็นสุสานของเชลยศึกสัมพันธมิตร ที่เสียชีวิตในระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะ บริเวณสุสานมีเนื้อที่กว้างขวางสวยงามและเงียบสงบ ชวนให้รำลึก ถึงเหตุการณ์การสู้รบและผลลัพธ์ที่ตามมา สุสานแห่งนี้บรรจุศพทหารเชลยศึกถึง 6,982 หลุม สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 3451 1500
:: สุสานทหารสัมพันธมิตรช่องไก่ ::
สุสานแห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย บริเวณท่าน้ำเมืองกาญจนบุรี ห่างจากตัวเมืองไปทางแม่น้ำแควน้อยประมาณ 2 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปโดยขับรถข้ามสะพานสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรที่ท่าน้ำหน้า เมือง สุสานทหาร สัมพันธมิตร ช่องไก่เคยเป็นที่ตั้งของค่ายเชลยศึกขนาดใหญ่ บริเวณสุสานสงบและสวยงาม มีขนาดเล็กกว่าสุสานดอนรัก บรรจุศพทหารเชลยศึกซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหารอังกฤษ ประมาณ 1,740 หลุม สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.cwgc.org
:: เขื่อนศรีนครินทร์ ::
อยู่ห่างจากน้ำตกเอราวัณ ประมาณ 4 กิโลเมตร ทางตอนบนของแม่น้ำแควใหญ่ เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศไทยกั้นแม่น้ำแควใหญ่ เป็นเขื่อนเอนกประสงค์ที่อำนวยประโยชน์ทั้งในด้านการชลประทาน การลดอุทกภัยใน ลุ่มแม่น้ำแม่กลอง รวมทั้งการผลิตกระแสไฟฟ้า การประมง และเหนือสันเขื่อนยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามเหมาะสำหรับเป็นที่ พักผ่อน หย่อนใจ เขื่อนศรีนครินทร์อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 70 กิโลเมตร บนทางหลวงสาย 3199 (กาญจนบุรี - ศรีสวัสดิ์) ทางเขื่อนมีบ้านพักรับรองไว้บริการนักท่องเที่ยว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โทร. 0 2436 6046-8 รานอาหารเรือล่อง โทร. 0 3457 4001 ต่อ 2455, 2457
:: เขื่อนวชิราลงกรณ์ (เขื่อนเขาแหลม) ::
ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าขนุน ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี 153 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 323 เหนือ อำเภอทองผาภูมิไปประมาณ 6 กิโลเมตร เขื่อนวชิราลงกรณเป็นเขื่อนหินถมดาดหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 92 เมตร สันเขื่อนกว้าง 10 เมตร ยาว 1,019 เมตร กั้นลำน้ำแควน้อย เป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำเอนกประสงค์ มีความสวยงามตาม ธรรมชาติ บริเวณเหนือเขื่อนมีทิวทัศน์สวยงาม เหมาะสำหรับการล่องเรือชมทิวทัศน์สภาพธรรมชาติของอ่างเก็บน้ำ และ สามารถชมสวนมะพร้าวกะทิบนเกาะกลางน้ำซึ่งต้องนั่งเรือจากเขื่อนไป 1 ชั่วโมง ต้องติดต่อล่วงหน้า กับอำเภอทองผาภูมิ มีบริการบ้านพักและเรือ (ต้องเช่าเป็นหมู่คณะ) นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถาม ได้ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ ไทย โทร. 0 3459 8030, 0 3459 9077 ต่อ 2452, 2506 กรุงเทพฯ โทร. 0 2436 6046-8
:: เขื่อนแม่กลอง ::
เป็นเขื่อนทดน้ำขนาดใหญ่ อยู่ในตัวอำเภอท่าม่วง ห่างจากอำเภอเมืองลงไปทางใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นเขื่อนที่มี ความสำคัญที่สุดในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำ แม่กลอง ครอบคลุมพื้นที่ 3 ล้านไร่ ในจังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงครามและสมุทรสาคร ตัวเขื่อนกว้าง 117.50 เมตร ยาว 1,650 เมตร บริเวณเหนือเขื่อนมีทิวทัศน์ สวยงาม
:: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ::
มีพื้นที่อยู่ในเขตอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน ยอดเขาสูงสุด คือ เขาใหญ่ อยู่บริเวณตอนกลาง ของพื้นที่ เป็นต้นน้ำของลำธารหลายสาย มีป่าไม้หลายชนิดประกอบ ด้วยทุ่งหญ้า ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และป่าดงดิบ มีสัตว์ป่าหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก การเดินทาง ยังไม่สะดวกนัก เนื่องจากสภาพถนนบางช่วงไม่ดี จากเส้นทางทองผาภูมิ - สังขละบุรี บริเวณแยกห้วยเสือ ไปยังบ้านคลีตี้ ระยะทาง 42 กิโลเมตร ต่อจากนั้นมีทางแยกไปที่ทำการเขตฯ ที่ห้วยซ่งไท้อีก 40 กิโลเมตร เขตรักษาพันธุ์ สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรเป็นพื้นที่เหมาะสำหรับผู้สนใจศึกษาธรรมชาติ ผู้ที่จะไปทุ่งใหญ่นเรศวรต้องทำหนังสือขออนุญาต ล่วงหน้า 15 วัน เรียนผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห้งชาติ สัตว์ป่าและพันธุพืช บางเขน กรุงเทพฯ
โทร. 0 2561 4292-3 ต่อ 765
:: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ::
ไปตามเส้นทางสายกาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ บริเวณ ต.ห้วยสะด่อง กม.ที่ 11 ประมาณ 27 กิโลเมตร จากตัวเมืองกาจนบุรี ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอบ่อพลอย อำเภอหนองปรือ อำเภอศรีสวัสดิ์ ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน และประกอบด้วยที่ราบระหว่าง หุบเขา เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของแม่น้ำแควใหญ่ ยอดเขาสูงที่สุด คือ เขาหัวโล้น สูงประมาณ 1,170 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง อยู่บริเวณตอนกลางของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จัดตั้งเป็น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2508 นับเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งแรกของประเทศไทย เป็นสถานที่ เหมาะสำหรับการ ศึกษาธรรมชาติ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 3 เส้นทาง คือ 1.เส้นห้วยลำอีซู 2.เส้นห้วยสะด่อง 3.เส้นทุ่งสลักพระ และยังมีเส้นทางที่สามารถเดินไปชมทิวทัศน์ริมขอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรี นครินทร์ ห้วยแม่ละมุ่น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3458 4032
:: สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค ::
ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 3086 (กาญจนบุรี - บ่อพลอย) จนถึงกิโลเมตรที่ 21 จะเห็นป้ายสวนสัตว์ เปิดทางซ้ายมือ นับเป็นสวนสัตว์เปิดแห่งแรกของกาญจนบุรี ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับสัตว์ นานาชนิด เช่น กวาง หมี เสือ สิงโต ม้าลาย ยีราฟ อูฐ ฯลฯ อย่างใกล้ชิด พักผ่อนชมสวนผีเสื้อ และสวนดอกไม้ นักท่องเที่ยวสามารถขับรถเข้าไปเที่ยวชมได้ด้วยตนเอง สำหรับผู้ที่ไม่ได้นำรถส่วนตัวมา ทางสวนสัตว์ได้จัดรถไว้คอย บริการนักท่องเที่ยว เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00–18.00 น. (ปิดจำหน่ายบัตรเวลา 17.30 น.) ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 120 บาท เด็ก 70 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3462 8270-1
:: สวนสัตว์เลี้ยงกาญจนบุรี ::
ตั้งอยู่ที่บ้านพุประดู่ ตำบลหนองบัว ห่างจากตัวเมือง กาญจนบุรีประมาณ 20 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปตามทางหลวง หมายเลข 3229 กิโลเมตรที่ 16 – 17 จะมีทางแยกเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร สวนสัตว์เลี้ยงกาญจนบุรีเป็นสถาน สงเคราะห์สัตว์ที่ย้ายมาจาก ทุ่งสีกัน บนพื้นที่ 38 ไร่ ปัจจุบันมีสุนัขมากที่สุด นอกนั้นจะเป็นแมว โค กระบือ แพะ และแกะ เหมาะสำหรับ ผู้ที่รักสัตว์สามารถมาขอรับสุนัขไปเลี้ยงได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 1763 3467, 0 1914 3444
:: น้ำตกไทรโยคน้อย (น้ำตกเขาพัง) ::
อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ตั้งอยู่ริมทางหลวง หมายเลข 323 (ถนนสายกาญจนบุรี - ไทรโยค - ทองผาภูมิ) กิโลเมตรที่ 46 เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งใน จังหวัดกาญจนบุรี บริเวณน้ำตกมีสภาพธรรมชาติที่สวยงามร่มรื่น โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนประมาณเดือนกรกฎาคม ถึงตุลาคมจะมีน้ำมาก ในอดีตเมื่อ พ.ศ. 2431 พระบาทสมเด็จพระจุลจอม เกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เสด็จประพาส บริเวณน้ำตกไทรโยค นอกจากนี้บริเวณน้ำตกไทรโยคน้อยยังได้มีการนำหัว รถจักรไอน้ำสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาตั้งไว้เพื่อรำลึกถึงการสร้างทางรถไฟสายมรณะที่สร้างผ่านบริเวณหน้าน้ำตก เข้าสู่ประเทศพม่า การรถไฟแห่ง ประเทศไทยได้จัดขบวนรถไฟสายน้ำตก พานักท่องเที่ยวไปชมน้ำตกแห่งนี้ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดราชการ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2223 7010, 0 2223 7020 หรือ 1690 หรือที่เว็บไซต์ www.railway.co.th นอกจากนี้ยังมีรถโดยสารประจำทางจากสถานีขนส่งอำเภอเมืองผ่านน้ำตกไทรโยคน้อย ซึ่งออกทุก 30 นาที ตั้งแต่เวลา 06.00 - 18.30 น.
:: น้ำตกตะเคียนทอง ::
เป็นน้ำตกที่ขึ้นอยู่กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ในบริเวณเทือกเขาตะนาวศรีซึ่งกั้นแนวเขตชายแดนไทย - พม่า ในเขตอำเภอสังขละบุรี ตัวน้ำตกมีต้นน้ำอยู่ในเขต ประเทศพม่าไหลเลาะเรื่อยมาตามแนวเขาที่กั้นเขตแดนสู่ประเทศไทยที่ ห้วยซองกาเลีย จากความอุดมสมบูรณ์ของ ป่าทำให้เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี เส้นทางเดินสู่ตัวน้ำตกชั้นแรกใช้เวลา ประมาณ 30 นาที เป็นทางราบปกคลุม ด้วยดงไผ่ หวาย เฟิร์น และไม้ใหญ่ยืนต้นนานาพันธุ์ บางช่วงลัดเลาะลำธารน้ำ บางช่วงจะเห็นสายน้ำไหลมาจากหลาย ทิศทางกระจายออกไปเป็นแอ่งน้ำหรือลานกว้าง ซึ่งน้ำตกในแต่ละชั้นมีความงดงาม แปลกตากันออกไป
การเดินทาง ไปตามทางหลวง หมายเลข 323 ก่อนถึงตัวอำเภอสังขละบุรี 4 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวามือไปด่านเจดีย์ สามองค์ ไปตามเส้นทาง สังขละบุรี - ด่านเจดีย์สามองค์ ประมาณกิโลเมตรที่ 12 – 13 จะมีป้ายบอกทางเข้าน้ำตกอยู่ ด้านขวา เลี้ยวตามทาง แยกไปบนถนนหินลูกรังอีกประมาณ 9 กิโลเมตร เมื่อถึงจุดพักรถจะต้องเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 30 นาที จึงจะถึงตัวน้ำตกชั้นแรก ควรติดต่อสอบถามรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่า หากต้องการค้างแรม ควรติดต่อขออนุญาตล่วงหน้า 15 วัน เรียนผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช บางเขน กรุงเทพฯ โทร. 0 2561 4292-3 ต่อ 765
:: น้ำตกคลีตี้ ::
อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร คลีตี้ เป็นภาษากระเหรี่ยงแปลว่า “เสือโทน” มีต้นน้ำอยู่บนยอดเขาดีกะ ใกล้เขต รักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร การเดินทางไปน้ำตกคลีตี้บน ต้องใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 2 วัน จากบ้านกะเหรี่ยงคลีตี้ และจะต้องมีลูกหาบ และคนนำทาง ส่วนน้ำตกคลีตี้ล่าง อยู่เหนือทะเลสาบแควใหญ่บริเวณลำเขางู ใช้เวลาเดินทางโดยทาง เรือจาก ท่าเรือกระดานหรือท่าหม่องกระแทะ ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
:: น้ำตกไดช่องถ่อง ::
ขึ้นอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ก่อนถึงอำเภอสังขละบุรี ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ-สังขละบุรี) กิโลเมตรที่ 32–33 ก่อนถึงน้ำตกเกริงกระเวียเล็กน้อยจะมีป้ายทางซ้ายมือเข้าไปประมาณ 500 เมตร จากนั้นเลี้ยวขวาเข้า ไปอีก 500 เมตร และต้องเดินเท้าไปอีก 600 เมตร เป็นน้ำตกขนาดกลางไหลลงสู่ทะเลสาบ เขื่อนแม่กลอง สภาพป่าสมบูรณ์ ร่มรื่นสวยงามมากในช่วงฤดูฝน
:: น้ำตกเกริงกระเวีย ::
ขึ้นอยู่กับเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ - สังขละบุรี) กิโลเมตรที่ 32–33 ใกล้กับน้ำตกไดช่องถ่อง ห่างจากอำเภอกาญจนบุรีประมาณ 173 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็ก จะมองเห็นสายน้ำแผ่ กระจายไหลมาจากหลายทิศทาง เหมาะสำหรับเป็นจุดพักผ่อนระหว่างการเดินทางไปอำเภอสังขละบุรี สามารถนั่งรถ โดยสารสายกาญจนบุรี - สังขละบุรี จากตัวเมืองมาได้ ค่าโดยสาร 90 บาท ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
:: น้ำตกผาตาด ::
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ในเขตอุทยานแห่งชาติ เขื่อนศรีนครินทร์ ห่างจากอำเภอเมือง140 กิโลเมตร เกิดจากลำห้วยเล็กๆ บริเวณเทือกเขากะลา น้ำตกผาตาดเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมีชั้นน้ำตกลดหลั่นกันไปถึง 3 ชั้น แต่ละชั้น มีความกว้าง ความสูงที่ตระการตา และมีน้ำมากในช่วงปลายฤดูฝน บรรยากาศร่มรื่น มีต้นไม้ปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ การเดินทาง สามารถเดินทางโดย ใช้ทางหลวงหมายเลข 323 ช่วงกิโลเมตรที่ 105–106 โดยเลี้ยวเข้าทางเดียวกับ พุน้ำร้อนหินดาด และอยู่เลยจาก พุน้ำร้อนหินดาดเข้าไปประมาณ 8 กิโลเมตร
:: น้ำตกผาสวรรค์ ::
เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่สวยงามลดหลั่นกันถึง 7 ชั้น และยังคงความสมบูรณ์ของธรรมชาติอยูมาก โดยเฉพาะชั้นที่สูงที่สุด มีความสูงประมาณ 80 เมตร ตัวน้ำตกอยู่ ในป่าลึกต้องอาศัยการเดินเท้าต่ออีก 40 นาที ช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดจะอยู่ใน ช่วงเดือนกรกฎาคม - มกราคม การ เดินทาง อยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 155 กิโลเมตร โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 323 กาญจนบุรี – ทองผาภูมิ บริเวณกิโลเมตรที่ 110 ผ่านบ้านสหกรณ์ นิคมเข้าไปประมาณ 15 กิโลเมตร และเลี้ยวขวาบริเวณทางแยก ดินลูกรังอีก 13 กิโลเมตร หรือใช้เส้นทางเชื่อมต่อจาก น้ำตกผาตาดแล้วเดินเท้าต่ออีก 40 นาที จึงจะถึงตัวน้ำตก หรือ ใช้เส้นทางจากน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ผ่านเหมืองเนินสวรรค์ หมู่บ้านสะพานลาวระยะทางประมาณ 42 กิโลเมตร ถึงทางแยก บริเวณโครงการปลูกป่เลี้ยวซ้ายอีก 13 กิโลเมตร ถึงที่จอดรถเดินเท้าต่ออีก 40 นาทีก็จะถึง ถ้าเดินทางในฤดูฝนควรใช้รถ ขับเคลื่อนสี่ล้อ
:: น้ำตกทุ่งนางครวญ ::
ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านทุ่งนางครวญ ตำบลชะแล ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เป็นน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 7 ชั้น ร่มรื่นสวยงามมาก สภาพน้ำตกยังคงความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมทั่วบริเวณตัวน้ำตกซึ่งเป็น หินปูน แต่ละชั้นมีลักษณะเป็นหน้าผาขนาดสูงใหญ่ บางชั้นสูงกว่า 35 เมตร และมีน้ำไหลตลอดทั้งปี การเดินทาง อยู่ห่างจากจังหวัด กาญจนบุรีประมาณ 190 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางสาย 323 (ทองผาภูมิ-สังขละบุรี) เลี้ยวขวาบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 26 (โดยสังเกตุจากพระพุทธรูปสีขาวที่อยู่บริเวณทางแยก) เดินทางต่อไปอีก 15 กิโลเมตร สภาพถนนเป็นทาง ราดยางสลับกับทางลูกรังอัดแน่น เมื่อถึงหมู่บ้านทุ่งนางครวญ จะมีทางแยกเข้าน้ำตกอีก 3 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินเท้าต่ออีกประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลา 30 นาที จึงจะถึงบริเวณน้ำตกชั้นที่ 1 สภาพถนนเป็นถนนลูกรัง ควรเดินทางโดยรถขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือรถกระบะและควรติดต่อชาวบ้านเพื่อนำทาง
:: ถ้ำกระแซ ::
ห่างจากตัวเมืองประมาณ 55 กิโลเมตร ไป ตามทางหลวงหมายเลข 323 กิโลเมตรที่ 29 – 30 ถ้ำนี้เป็นถ้ำที่เคยเป็นที่พัก ของเชลยศึกเมื่อครั้ง สร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะจากไทยไปพม่า ตัวถ้ำติดกับเส้นทางรถไฟสายกาญจนบุรี – น้ำตก วึ่งเป็นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันสิ้นสุดที่สถานีรถไฟน้ำตก ภายในถ้ำโปร่งและมีพระ พุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ มองจากปากถ้ำมาที่บริเวณทางรถไฟ จะเห็นทิวทัศน์ที่งดงามและมองเห็นแม่น้ำแควน้อย อยู่เบื้องล่าง บริเวณนี้เป็นจุดที่สร้างทางรถไฟยากที่สุด เนื่องจากเส้นทางโค้งเลียบเขา เบื้องล่างเป็นแม่น้ำแควน้อย
:: ถ้ำพระธาตุ ::
อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ห่างจากน้ำตกเอราวัณไปประมาณ 8 กิโลเมตร ห่างจากตัวเมือง 76 กิโลเมตร ภายในมี หินงอก หินย้อยวิจิตรงดงามมาก ที่แปลกคือเป็นหินที่โปร่งแสง ถ้ำมีความยาว 20 เมตร ใช้เวลาชมถ้ำพระธาตุ ประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง การเข้าชมถ้ำพระธาตุ นักท่องเที่ยวจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ณ ที่ทำการ ซึ่งตั้งอยู่เชิงเขาเพื่อขอ ให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้นำทางให้ และควรเดินทางถึงถ้ำก่อนเวลา 15.00 น.
:: ถ้ำแก้วสวรรค์บันดาล ::
ตั้งอยู่ในบริเวณสำนักปฏิบัติธรรม ถ้ำแก้วสวรรค์บันดาล ติดภูเขาเล็กๆ แต่ละถ้ำมีชื่อเรียกตามลักษณะ เช่น ถ้ำบาดาลมี ระดับน้ำ สูงประมาณหัวเข่า ถ้ำพ่อปู่ฤาษี ถ้ำแก้วมรกตมีผนังหินงอกหินย้อยเป็นสีเขียว ถ้ำแก้วสวรรค์ บันดาลและถ้ำแก้ว ภายในแต่ละถ้ำมีหินย้อยรูปทรงต่างๆ งดงามมาก เมื่อกระทบกับแสงไฟ จะสะท้อนแสงแวววาวคล้ายถูกโรยไว้ด้วยกาก เพชร การเข้าไปเที่ยวชมนักท่องเที่ยวควรแต่งกาย ด้วยชุดที่รัดกุม เลือกสวมรองเท้าที่เหมาะสมและต้องใช้ความระมัด ระวังเป็นพิเศษ เพราะบางถ้ำ มีโขดหินที่สูงชัน บางถ้ำต้องใช้วิธีการคลานและมุดไปตามซอกของช่องหิน และบางถ้ำที่มี ระดับ น้ำสูงประมาณหัวเข่า หากต้องการชมให้ครบหมดทุกถ้ำ จะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไป
การเดินทาง ใช้เส้นทาง อำเภอสังขละบุรี - ด่านเจดีย์สามองค์ กิโลเมตรที่ 16 เลี้ยวขวาบริเวณศาลาพักร้อนริมทาง จากนั้นขับรถ ไปตามถนนดินอีกประมาณ 800 เมตร เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางอีก 200 เมตร จะถึงบริเวณสำนักปฏิบัติ ธรรมซึ่งเป็นที่ตั้งของถ้ำแก้วสวรรค์บันดาล นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามข้อมูลของถ้ำได้จากพระสงฆ์ที่ จำวัดอยู่ ณ บริเวณสำนักปฏิบัติธรรมนั้น
:: ถ้ำดาวดึงส์ ::
อยู่ในเขตอำเภอไทรโยค ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 110 กิโลเมตร และห่างจากริมฝั่งแม่น้ำแควน้อยขึ้นไปบนเขา ประมาณ 1 กิโลเมตร การเดินทาง โดยรถยนต์สามารถเดินทางเข้าทางอุทยานแห่งชาติไทรโยค แล้วเลี้ยวซ้ายไปทาง วัดถ้ำดาวดึงส์ประมาณ 2.5 กิโลเมตร ถ้ำดาวดึงส์มีหินงอกหินย้อยที่งดงามรูปต่าง ๆ เช่น โคมระย้า พระปรางค์ และเจดีย์ ภายในถ้ำ มีอากาศโปร่งแต่มืดสนิท ต้องมีไฟฉายหรือตะเกียงไปด้วย และควรมีคนนำทางไป
:: ถ้ำละว้า ::
ห่างจากตัวเมืองประมาณ 75 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ช่วงกิโลเมตรที่ 59 – 60 ต้องข้ามฝั่งแม่น้ำ แควน้อย สามารถเช่า เหมาเรือจากท่าเรือปากแซงข้ามไป ในราคาประมาณ 800 – 1,000 บาท นั่งได้ 10 – 12 คน ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถ้ำละว้าเป็นถ้าที่สวยงามมาก ค้นพบโดยนายเผิน ดอกเข็ม เมื่อปี พ.ศ. 2496 บริเวณปากถ้ำ ไม่กว้างนัก แต่ภายในถ้ำกว้างขวางใหญ่โตมาก แบ่งเป็นห้องต่างๆ เช่น ห้องท้องพระโรง ห้องดนตรี ห้องม่าน ห้องพระปรางค์ แต่ละห้องมีความงดงามของหินย้อย แตกต่างกันออกไป บ้างเหมือนม่านโรงละคร บ้างมีประกาย ระยิบระยับราวกับโรยด้วยกากเพชร
:: ถ้ำวังบาดาล ::
หรือเรียกว่า "ถ้ำสวรรค์วังบาดาล" อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ตั้งอยู่ตำบลท่าเสา ห่างจากตัวเมืองประมาณ 63 กิโลเมตร อยู่ด้านหลังน้ำตกไทรโยคน้อย มีป้ายบอกทางเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร จะพบหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ บริเวณ หน่วยพิทักษ์อุทยานฯสามารถชมต้นน้ำตกไทรโยค การไปชมถ้ำต้องเดินเข้าไปอีกประมาณ 1,500 เมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ตลอดเส้นทางมีป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับสภาพธรรมชาติ ถ้ำวังบาดาลมีความยาว 500 เมตร เป็นถ้ำขนาดเล็กแต่ลึก มาก ปากถ้ำเป็นช่องเล็กๆ แต่เข้าไปได้ทีละคน ลักษณะเป็นเป็นถ้ำหินปูน 2 ชั้น โดยชั้นบนจะมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม แบ่งเป็นห้องหลายห้อง เช่น ห้องม่านพระจันทร์ มีหินงอกหินย้อยลงมาคล้ายกับม่าน ห้องเข็มนารายณ์ มีลักษณะคล้ายเข็ม แท่งใหญ่ย้อยลงมาสวยงามมาก ห้องเข็มนารายณ์ มีลักษณะคล้ายเข็มแท่งใหญ่ย้อยลงมา สวยงามมาก ส่วนชั้นล่างมีธารน้ำ ไหลผ่าน ลักษณะเหมือนอุโมงค์น้ำใต้หินขนาดใหญ่
:: ถ้ำมะเดื่อ ::
อยู่ในบริเวณวัดถ้ำมะเดื่อ ตำบลบ้านเก่า ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 40 กิโลเมตร
การเดินทาง จากป้อมตำรวจบ้านเก่า ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแควน้อย ไปตามทางหลวงหมายเลข 3445 ประมาณ 8 กิโลเมตร ถึงค่ายไทรโยค เข้าไปในค่ายไทรโยคประมาณ 3 กิโลเมตร เมื่อเดินทางไปควรติดต่อกับทางวัดโดยทางวัด ได้ติดตั้งไฟไว้เพื่อให้เห็นสภาพภายในถ้ำที่มีเนื้อที่ กว้างขวางมีหินงอกหินย้อยสวยงามแตกต่างกันไป ต้องใช้เวลาชม ประมาณ 1 ชั่วโมง
:: สะพานข้ามแม่น้ำแคว ::
ตั้งอยู่ที่ตำบลท่ามะขาม ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือตามทางหลวงหมายเลข 323 ประมาณ 4 กิโลเมตร แยกซ้าย ประมาณ 400 เมตร มีป้ายชี้บอกทางไว้ชัดเจน เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นสมัยสงคราม โลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลย ศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดาและ นิวซีแลนด์ ประมาณ 61,700 คนและกรรมกรชาวจีน ญวน ชวา มลายู ไทย พม่า อินเดียอีกจำนวน มากมาก่อสร้างทาง รถไฟสายยุทธศาสตร์เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า ซึ่งเส้นทางช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่จึงต้องมีการ สร้างสะพานขึ้น การสร้าง สะพานและทางรถไฟสายนี้เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงคราม และโรคภัย ตลอดจนการขาดแคลนอาหารทำให้เชลยศึกจำนวนหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง นอกจากนี้ ที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว มีบริการรถราง Fairmong ทุกวัน โดยวันธรรมดาจะมีตั้งแต่เวลา 08.00-19.30 น., 11.20-14.00 น., 15.00-16.00 น., และ 18.00-18.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-09.30 น., 11.20-14.00 น., และ18.00-18.30 น. ค่าโดยสารคนละ 20 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3451 1200, 0 3451 2500
:: สะพานมอญ ::
อยู่ในตัวอำเภอสังขละบุรี เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยมีความยาวถึง 850 เมตร สร้างข้ามลำน้ำ ซองกาเลียสำหรับให้ประชาชนฝั่งตัวอำเภอสังขละบุรีและฝั่งหมู่บ้านชาวมอญเดิน ข้ามสัญจร ไปมา บริเวณสะพานแห่งนี้เป็นจุดชมวิวทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ์ที่สวยงามสามารถมอง เห็นลำห้วยสาย ต่างๆ คือ ซองกาเลีย บีคลี่ และรันตีที่ไหลมารวมกันเป็นสามประสบ
:: สวนเวลารำลึก ::
เป็นสวนที่อยู่ภายในเขื่อนศรีนครินทร์ มีพื้นที่กว่า 30 ไร่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้สร้างขึ้นมาเพื่อเฉลิม พระเกียรติและรำลึก ถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในวโรกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเจริญพระชนมายุครบ 90 พรรษา เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2533 สวนเวลารำลึกนี้สร้างเป็นสวนประติมากรรมบอกเวลามี สัญลักษณ์รูปนาฬิกาแดด เป็นเครื่องเตือนใจให้รำลึกถึงคุณค่าแห่งชีวิตที่ก้าวล่วงเวลาทุกนาที ที่ผ่านไป สมดังพระราชหฤทัยของสมเด็จย่าที่ทรง ตระหนักเป็นแน่แท้ว่า “เวลาเป็นของมีค่า” ซึ่งควรจะใช้เวลาให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ ไม่ควรปล่อยให้ล่วงเลยไปอย่าง ไร้ประโยชน์ บริเวณลานโดยรอบจะมีที่นั่งพักผ่อนเพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงามของเขื่อนศรี นครินทร์
:: สวนอรอนงค์ชวนชม ::
ตั้งอยู่ตรงข้ามอนามัยตลาดเขต อำเภอพนมทวน ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 40 กิโลเมตร ไปตามถนนสาย กาญจนบุรี - สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 324) เป็นสวนเพาะพันธุ์ต้นชวนชมที่ใหญ่ ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี บนพื้นที่ 40 ไร่ มีชวนชมหลากหลายพันธุ์ให้ดอกชวนชมสีสัน สดสวยงาม นักท่องเที่ยวและผู้สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชม และเลือกซื้อชวนชมพันธุ์ดีไปปลูก เป็นไม้ดอกไม้ประดับบ้านได้ โดยติดต่อ คุณอรอนงค์ โทร. 0 3457 1193,
0 1856 7799, 0 1905 5299 สอบถามการท่องเที่ยวเพิ่มเติม ด้านการท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี โทร. 0 3451 1254 ต่อ 13, 0 3451 2924
:: สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ (สวนหิน) ::
ตั้งอยู่ที่ทุ่งนาคราช ตำบลหนองหญ้า ในบริเวณวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกาญจนบุรี มีเนื้อที่ 600 ไร่ ประชาชนทั่วไป เรียกว่า สวนหินหรืออุทยานหิน บริเวณโดยรอบมีหินงอกขนาดเล็กใหญ่ลักษณะต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นเอง ตามธรรมชาติตั้งเรียง รายอยู่เป็นจำนวนมากอย่างมีระเบียบและยังเป็นแหล่งรวบรวม พันธุ์ไม้ป่าชนิดต่างๆ อีกด้วย
การเดินทาง สามารถเดินทางจากถนนแสงชูโต ข้ามสะพานสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร ไปอีกประมาณ 9 กิโลเมตร โดยผ่านสุสานทหารสัมพันธมิตรช่องไก่ วัดถ้ำเขาปูนไปไม่ไกลนักจะพบสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์
:: เที่ยวป่าสังขละบุรี ::
เป็นบริการนำเที่ยวของสถานที่พักในเขตอำเภอสังขละบุรี โดยจัดให้นักท่องเที่ยวล่องเรือไปตามลำน้ำซองกะเลีย ต่อด้วยการ นั่งช้างเที่ยวป่าและล่องแก่ง ผู้สนใจติดต่อล่วงหน้า ที่บริษัทนำเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงาน ภาคกลางเขต 1 โทร. 0 3451 1200, 0 251 2500
:: พุน้ำร้อนหินดาด ::
เดิมเรียกว่า น้ำพุร้อนกุยมั่ง เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติริมลำธาร อุณหภูมิประมาณ 45 - 55 องศาเซลเซียส ค้นพบโดยทหาร ญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้สร้างเป็นบ่อซีเมนต์ขึ้น 2 บ่อ เชื่อกันว่าน้ำแร่จากบ่อน้ำร้อนแห่งนี้ มีสรรพคุณในการ รักษาโรคภัยไข้เจ็บหลายอย่าง เช่น โรคเหน็บชา ไขข้ออักเสบ นักท่องเที่ยวสามารถลงอาบน้ำในบ่อได้ และยังมีลำธารน้ำเย็น ไหลอยู่ด้านล่างบ่อน้ำร้อน
การเดินทาง สามารถเดินทางไป ตามทางหลวงหมายเลข 323 บริเวณกิโลเมตรที่ 105 – 106 อยู่ห่างจากตัวเมือง กาญจนบุรี 135 กิโลเมตร
:: เหมืองปิล็อก ::
ตั้งอยู่ในตำบลปิล็อก ซึ่งอยู่ห่างจาก อำเภอทองผาภูมิไปทางทิศตะวันตกประมาณ 70 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 3272 ที่นี่เคยมีการทำเหมืองแร่ดีบุก วุลเฟรม กันมากบนเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่าง ไทยกับพม่า มีอากาศ ดีโดยเฉพาะฤดูหนาว สามารถชมทัศนียภาพทะเลอันดามันที่จุดชมวิวไทย - พม่า ระหว่างทางสามารถแวะชม "ปิล็อกฮิลล์" สถานที่ปลูกไม้ผลและไม้ประดับเมืองหนาว ซึ่งอยู่ห่างจากทองผาภูมิประมาณ 32 กิโลเมตร อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ซึ่งมีบ้านบนต้นไม้ ที่ "บ้านอีต่อง" ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติด กับแนวชายแดนของประเทศพม่า มีน้ำตกสวยงามหลายแห่งซึ่งการจะเข้าถึงน้ำตก จะต้องใช้การ เดินเท้า เช่น น้ำตกจ๊อกกะดิ่น และน้ำตกเจ็ดมิตร นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถกางเต็นท์ได้ ที่บริเวณ เนินช้างศึก และชมทัศนียภาพของบ้านอีต่อง (ประเทศพม่า) ได้ที่เนินเสาธง สอ
พระราชวัง พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด สถานที่จัดการแสดง
อนุสาวรีย์ สนามกีฬา สวนสนุก/สวนสัตว์ ย่านจำหน่ายสินค้า
:: พระบรมมหาราชวัง ::
รัชกาลที่ 1 ทรงย้ายราชธานีจากกรุงธนบุรีที่กรุงเทพฯ เมื่อ พ.ศ. 2325 ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังขึ้นใหม่ โดยให้ถือสร้างแบบกรุงศรีอยุธยา โดยประกอบด้วยพระมหาปราสาทพระราช มณเฑียรสถานและวัดพระศรีรัตนศาสดา รามมีเนื้อที่ 132 ไร่สร้างเสร็จสมบูรณ์ เมื่อปี พ.ศ. 2328
ในรัชกาลต่อๆมา ได้มีการสร้าง พระที่นั่งองค์ต่างๆ เพิ่มอีกหลายองค์ พระที่นั่งที่สำคัญๆในพระบรม มหาราชวัง ได้แก่ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท พระที่นั่งราชกรัณยสภา พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระที่นั่งอัมรินทร์วินิจฉัย พระที่นั่งดุสิตดาภิรมย์ หอศาสตราคม พระที่นั่งบรมพิมาน เป็นต้น
พระบรมมหาราชวังเปิดให้ชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 - 11.30 และ 13.00 - 15.30 น. ชาวต่างประเทศ เสียค่าเข้าชม คนละ 100 บาท ชาวไทยไม่เสียค่าเข้าชม
:: พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ::
เดิมชื่อพระที่นั่งอินทราภิเษกมหาปราสาท เป็นพระมหาปราสาท องค์แรกที่สร้างขึ้นในพระราชวัง เป็นที่ประดิษฐาน พระบรมศพพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระอัครมเหสี และพระบรมวงศานุวงศ์ ใช้ ประกอบพระราช พิธีสำคัญ เช่น พระราชพิธีการมงคล และบำเพ็ญพระราชกุศลต่าง ๆ
:: พระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ::
อยู่ใกล้กับพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทใช้เป็นที่ประทับทรงพระราชพาหนะ และประทับเปลื้อง เครื่องในงานพระราชพิธี ที่มีขบวนแห่
พระบรมมหาราชวังพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาทพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
:: พระที่นั่งพิมานรัตยา ::
สร้างเมื่อ พ.ศ. 2332 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เป็นที่บรรทม และ ทรงใช้เป็นที่ชุมนุม มหาสมาคมสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชบริพารฝ่ายในเข้ารับพระราชทานเครื่องอิสริยยศ และเครื่องราช อิสริยาภรณ์ และนอกจากนั้นยังเป็นที่สรงน้ำ พระบรมศพพระบรมวงศานุวงศ์ ก่อนที่จะประดิษฐาน พระบรมโกศใน พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
:: พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ::
สร้างในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2419 ใช้เป็นที่รับรอง พระราชอาคันตุกะชั้น พระราชาธิบดี หรือชั้นประมุขของรัฐ นอกจากนี้ยังมีหมู่พระที่นั่งสำคัญอื่น ๆ เช่น พระที่นั่งราชกรัณยสภา พระที่นั่งมูล สถานบรมอาสน์ พระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ พระที่นั่งบรมราชสถิตย์มโหฬาร พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ฯลฯ
:: พระที่นั่งอนันตสมาคม และรัฐสภา ::
สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นอาคารหินอ่อน แบบอิตาลีทั้งนี้ มีพระราชประสงค์ที่จะสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่รับรองแขกเมือง และประชุมปรึกษาราชการแผ่นดิน พระที่นั่งนี้สร้างเสร็จใน สมัยรัชกาลที่ 6 บนเพดานโดมของพระที่นั่งมีภาพเยนสีที่ สวยงามมาก
เป็นภาพเกี่ยวกับ พระราชกรณียกิจที่สำคัญ ของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 - 6 แห่งราชวงศ์จักรี พระที่นั่งอนันตสมาคม ใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีและรัฐพิธีต่างๆ และเคยเป็นที่ประชุมสภา แต่เมื่อได้มี การสร้างตึกรัฐสภาใหม่ ซึ่งอยู่ด้าน หลังของพระที่นั่งนี้ การประชุมรัฐสภาจึงได้ย้ายไป ประชุมที่ตึกรัฐสภาใหม่ ส่วนพิธีเปิดประชุมรัฐสภาจะกระทำที่ พระที่นั่งอนันตสมาคม
พระที่นั่งอนันตสมาคม และรัฐสภาพระที่นั่งวิมานเมฆวังสวนผักกาด
:: พระที่นั่งวิมานเมฆ ::
ตั้งอยู่บริเวณหลังพระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นพระราชวังที่ทำจากไม้สักทองทั้งหลัง เดิมตั้งอยู่บนเกาะสีชัง สร้างขึ้นใน สมัยรัชกาลที่ 5 และได้ชะบอมาไว้ ณ สถานที่ตั้งปัจจุบัน เมื่อ พ.ศ. 2444
ภายในพระที่นั่งประกอบ ด้วยห้องต่างๆ 81 ห้อง มีคลองล้อมรอบอาทิ คลองคาบแผ่นกระจก คลองรางเงิน อ่างหยก ภายในบริเวณร่มรื่นสวยงาม พระที่นั่งวิมานเมฆ
เปิดให้ชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. ค่าเข้าชมคนละ 50 บาทรวมค่าเข้าชม พระที่นั่งอภิเษกดุสิต และพิพิทธภัณฑ์รถม้าพระที่นั่ง ซึ่งอยู่ในบริเวณ เดียวกัน รายละเอียดติดต่อ โทร. 2811569, 2811518, 2816880
:: วังสวนผักกาด ::
ตั้งอยู่ที่ถนนศรีอยุธยา เป็นที่ประทับของกรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิ์พินิจ และ ม.ร.ว.หญิงพันธุ์ทิพย์ บริพัตร ประกอบด้วย หมู่เรือนไทยท่ามกลางสวนที่สวยงาม รวมทั้งจัดแสดงศิลปวัตถุโบราณ บางส่วน จัดทำเป็น พิพิธภัณฑ์โขน
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย คนละ 50 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 245-4934
จ.กาญจนบุรีสถานที่ท่องเที่ยว
:: สุสานทหารสหประชาชาติ ::
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแควน้อยบริเวณท่าน้ำเมืองกาญจนบุรี เคยเป็นที่ตั้งของค่ายเชลยศึกขนาดใหญ่ บริเวณสุสานสงบและ สวยงาม บรรจุศพทหารเชลยศึกซึ่งส่วนใหญ่เป็น ทหารอังกฤษประมาณ 1740 หลุม
:: สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก ::
ตั้งอยู่ริมถนนแสงชูโต (ทางหลวงหมายเลข 323) ก่อนจะเข้าตัวเมือง สุสานแห่งนี้เป็นสุสานของเชลยศึกสัมพันธมิตร ที่เสียชีวิตในระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะ บริเวณสุสานมีเนื้อที่กว้างขวางสวยงามและเงียบสงบ ชวนให้รำลึก ถึงเหตุการณ์การสู้รบและผลลัพธ์ที่ตามมา สุสานแห่งนี้บรรจุศพทหารเชลยศึกถึง 6,982 หลุม สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 3451 1500
:: สุสานทหารสัมพันธมิตรช่องไก่ ::
สุสานแห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย บริเวณท่าน้ำเมืองกาญจนบุรี ห่างจากตัวเมืองไปทางแม่น้ำแควน้อยประมาณ 2 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปโดยขับรถข้ามสะพานสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรที่ท่าน้ำหน้า เมือง สุสานทหาร สัมพันธมิตร ช่องไก่เคยเป็นที่ตั้งของค่ายเชลยศึกขนาดใหญ่ บริเวณสุสานสงบและสวยงาม มีขนาดเล็กกว่าสุสานดอนรัก บรรจุศพทหารเชลยศึกซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหารอังกฤษ ประมาณ 1,740 หลุม สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.cwgc.org
:: เขื่อนศรีนครินทร์ ::
อยู่ห่างจากน้ำตกเอราวัณ ประมาณ 4 กิโลเมตร ทางตอนบนของแม่น้ำแควใหญ่ เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศไทยกั้นแม่น้ำแควใหญ่ เป็นเขื่อนเอนกประสงค์ที่อำนวยประโยชน์ทั้งในด้านการชลประทาน การลดอุทกภัยใน ลุ่มแม่น้ำแม่กลอง รวมทั้งการผลิตกระแสไฟฟ้า การประมง และเหนือสันเขื่อนยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามเหมาะสำหรับเป็นที่ พักผ่อน หย่อนใจ เขื่อนศรีนครินทร์อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 70 กิโลเมตร บนทางหลวงสาย 3199 (กาญจนบุรี - ศรีสวัสดิ์) ทางเขื่อนมีบ้านพักรับรองไว้บริการนักท่องเที่ยว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โทร. 0 2436 6046-8 รานอาหารเรือล่อง โทร. 0 3457 4001 ต่อ 2455, 2457
:: เขื่อนวชิราลงกรณ์ (เขื่อนเขาแหลม) ::
ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าขนุน ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี 153 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 323 เหนือ อำเภอทองผาภูมิไปประมาณ 6 กิโลเมตร เขื่อนวชิราลงกรณเป็นเขื่อนหินถมดาดหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 92 เมตร สันเขื่อนกว้าง 10 เมตร ยาว 1,019 เมตร กั้นลำน้ำแควน้อย เป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำเอนกประสงค์ มีความสวยงามตาม ธรรมชาติ บริเวณเหนือเขื่อนมีทิวทัศน์สวยงาม เหมาะสำหรับการล่องเรือชมทิวทัศน์สภาพธรรมชาติของอ่างเก็บน้ำ และ สามารถชมสวนมะพร้าวกะทิบนเกาะกลางน้ำซึ่งต้องนั่งเรือจากเขื่อนไป 1 ชั่วโมง ต้องติดต่อล่วงหน้า กับอำเภอทองผาภูมิ มีบริการบ้านพักและเรือ (ต้องเช่าเป็นหมู่คณะ) นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถาม ได้ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ ไทย โทร. 0 3459 8030, 0 3459 9077 ต่อ 2452, 2506 กรุงเทพฯ โทร. 0 2436 6046-8
:: เขื่อนแม่กลอง ::
เป็นเขื่อนทดน้ำขนาดใหญ่ อยู่ในตัวอำเภอท่าม่วง ห่างจากอำเภอเมืองลงไปทางใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นเขื่อนที่มี ความสำคัญที่สุดในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำ แม่กลอง ครอบคลุมพื้นที่ 3 ล้านไร่ ในจังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงครามและสมุทรสาคร ตัวเขื่อนกว้าง 117.50 เมตร ยาว 1,650 เมตร บริเวณเหนือเขื่อนมีทิวทัศน์ สวยงาม
:: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ::
มีพื้นที่อยู่ในเขตอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน ยอดเขาสูงสุด คือ เขาใหญ่ อยู่บริเวณตอนกลาง ของพื้นที่ เป็นต้นน้ำของลำธารหลายสาย มีป่าไม้หลายชนิดประกอบ ด้วยทุ่งหญ้า ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และป่าดงดิบ มีสัตว์ป่าหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก การเดินทาง ยังไม่สะดวกนัก เนื่องจากสภาพถนนบางช่วงไม่ดี จากเส้นทางทองผาภูมิ - สังขละบุรี บริเวณแยกห้วยเสือ ไปยังบ้านคลีตี้ ระยะทาง 42 กิโลเมตร ต่อจากนั้นมีทางแยกไปที่ทำการเขตฯ ที่ห้วยซ่งไท้อีก 40 กิโลเมตร เขตรักษาพันธุ์ สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรเป็นพื้นที่เหมาะสำหรับผู้สนใจศึกษาธรรมชาติ ผู้ที่จะไปทุ่งใหญ่นเรศวรต้องทำหนังสือขออนุญาต ล่วงหน้า 15 วัน เรียนผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห้งชาติ สัตว์ป่าและพันธุพืช บางเขน กรุงเทพฯ
โทร. 0 2561 4292-3 ต่อ 765
:: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ::
ไปตามเส้นทางสายกาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ บริเวณ ต.ห้วยสะด่อง กม.ที่ 11 ประมาณ 27 กิโลเมตร จากตัวเมืองกาจนบุรี ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอบ่อพลอย อำเภอหนองปรือ อำเภอศรีสวัสดิ์ ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน และประกอบด้วยที่ราบระหว่าง หุบเขา เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของแม่น้ำแควใหญ่ ยอดเขาสูงที่สุด คือ เขาหัวโล้น สูงประมาณ 1,170 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง อยู่บริเวณตอนกลางของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จัดตั้งเป็น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2508 นับเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งแรกของประเทศไทย เป็นสถานที่ เหมาะสำหรับการ ศึกษาธรรมชาติ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 3 เส้นทาง คือ 1.เส้นห้วยลำอีซู 2.เส้นห้วยสะด่อง 3.เส้นทุ่งสลักพระ และยังมีเส้นทางที่สามารถเดินไปชมทิวทัศน์ริมขอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรี นครินทร์ ห้วยแม่ละมุ่น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3458 4032
:: สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค ::
ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 3086 (กาญจนบุรี - บ่อพลอย) จนถึงกิโลเมตรที่ 21 จะเห็นป้ายสวนสัตว์ เปิดทางซ้ายมือ นับเป็นสวนสัตว์เปิดแห่งแรกของกาญจนบุรี ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับสัตว์ นานาชนิด เช่น กวาง หมี เสือ สิงโต ม้าลาย ยีราฟ อูฐ ฯลฯ อย่างใกล้ชิด พักผ่อนชมสวนผีเสื้อ และสวนดอกไม้ นักท่องเที่ยวสามารถขับรถเข้าไปเที่ยวชมได้ด้วยตนเอง สำหรับผู้ที่ไม่ได้นำรถส่วนตัวมา ทางสวนสัตว์ได้จัดรถไว้คอย บริการนักท่องเที่ยว เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00–18.00 น. (ปิดจำหน่ายบัตรเวลา 17.30 น.) ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 120 บาท เด็ก 70 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3462 8270-1
:: สวนสัตว์เลี้ยงกาญจนบุรี ::
ตั้งอยู่ที่บ้านพุประดู่ ตำบลหนองบัว ห่างจากตัวเมือง กาญจนบุรีประมาณ 20 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปตามทางหลวง หมายเลข 3229 กิโลเมตรที่ 16 – 17 จะมีทางแยกเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร สวนสัตว์เลี้ยงกาญจนบุรีเป็นสถาน สงเคราะห์สัตว์ที่ย้ายมาจาก ทุ่งสีกัน บนพื้นที่ 38 ไร่ ปัจจุบันมีสุนัขมากที่สุด นอกนั้นจะเป็นแมว โค กระบือ แพะ และแกะ เหมาะสำหรับ ผู้ที่รักสัตว์สามารถมาขอรับสุนัขไปเลี้ยงได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 1763 3467, 0 1914 3444
:: น้ำตกไทรโยคน้อย (น้ำตกเขาพัง) ::
อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ตั้งอยู่ริมทางหลวง หมายเลข 323 (ถนนสายกาญจนบุรี - ไทรโยค - ทองผาภูมิ) กิโลเมตรที่ 46 เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งใน จังหวัดกาญจนบุรี บริเวณน้ำตกมีสภาพธรรมชาติที่สวยงามร่มรื่น โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนประมาณเดือนกรกฎาคม ถึงตุลาคมจะมีน้ำมาก ในอดีตเมื่อ พ.ศ. 2431 พระบาทสมเด็จพระจุลจอม เกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เสด็จประพาส บริเวณน้ำตกไทรโยค นอกจากนี้บริเวณน้ำตกไทรโยคน้อยยังได้มีการนำหัว รถจักรไอน้ำสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาตั้งไว้เพื่อรำลึกถึงการสร้างทางรถไฟสายมรณะที่สร้างผ่านบริเวณหน้าน้ำตก เข้าสู่ประเทศพม่า การรถไฟแห่ง ประเทศไทยได้จัดขบวนรถไฟสายน้ำตก พานักท่องเที่ยวไปชมน้ำตกแห่งนี้ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดราชการ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2223 7010, 0 2223 7020 หรือ 1690 หรือที่เว็บไซต์ www.railway.co.th นอกจากนี้ยังมีรถโดยสารประจำทางจากสถานีขนส่งอำเภอเมืองผ่านน้ำตกไทรโยคน้อย ซึ่งออกทุก 30 นาที ตั้งแต่เวลา 06.00 - 18.30 น.
:: น้ำตกตะเคียนทอง ::
เป็นน้ำตกที่ขึ้นอยู่กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ในบริเวณเทือกเขาตะนาวศรีซึ่งกั้นแนวเขตชายแดนไทย - พม่า ในเขตอำเภอสังขละบุรี ตัวน้ำตกมีต้นน้ำอยู่ในเขต ประเทศพม่าไหลเลาะเรื่อยมาตามแนวเขาที่กั้นเขตแดนสู่ประเทศไทยที่ ห้วยซองกาเลีย จากความอุดมสมบูรณ์ของ ป่าทำให้เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี เส้นทางเดินสู่ตัวน้ำตกชั้นแรกใช้เวลา ประมาณ 30 นาที เป็นทางราบปกคลุม ด้วยดงไผ่ หวาย เฟิร์น และไม้ใหญ่ยืนต้นนานาพันธุ์ บางช่วงลัดเลาะลำธารน้ำ บางช่วงจะเห็นสายน้ำไหลมาจากหลาย ทิศทางกระจายออกไปเป็นแอ่งน้ำหรือลานกว้าง ซึ่งน้ำตกในแต่ละชั้นมีความงดงาม แปลกตากันออกไป
การเดินทาง ไปตามทางหลวง หมายเลข 323 ก่อนถึงตัวอำเภอสังขละบุรี 4 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวามือไปด่านเจดีย์ สามองค์ ไปตามเส้นทาง สังขละบุรี - ด่านเจดีย์สามองค์ ประมาณกิโลเมตรที่ 12 – 13 จะมีป้ายบอกทางเข้าน้ำตกอยู่ ด้านขวา เลี้ยวตามทาง แยกไปบนถนนหินลูกรังอีกประมาณ 9 กิโลเมตร เมื่อถึงจุดพักรถจะต้องเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 30 นาที จึงจะถึงตัวน้ำตกชั้นแรก ควรติดต่อสอบถามรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่า หากต้องการค้างแรม ควรติดต่อขออนุญาตล่วงหน้า 15 วัน เรียนผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช บางเขน กรุงเทพฯ โทร. 0 2561 4292-3 ต่อ 765
:: น้ำตกคลีตี้ ::
อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร คลีตี้ เป็นภาษากระเหรี่ยงแปลว่า “เสือโทน” มีต้นน้ำอยู่บนยอดเขาดีกะ ใกล้เขต รักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร การเดินทางไปน้ำตกคลีตี้บน ต้องใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 2 วัน จากบ้านกะเหรี่ยงคลีตี้ และจะต้องมีลูกหาบ และคนนำทาง ส่วนน้ำตกคลีตี้ล่าง อยู่เหนือทะเลสาบแควใหญ่บริเวณลำเขางู ใช้เวลาเดินทางโดยทาง เรือจาก ท่าเรือกระดานหรือท่าหม่องกระแทะ ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
:: น้ำตกไดช่องถ่อง ::
ขึ้นอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ก่อนถึงอำเภอสังขละบุรี ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ-สังขละบุรี) กิโลเมตรที่ 32–33 ก่อนถึงน้ำตกเกริงกระเวียเล็กน้อยจะมีป้ายทางซ้ายมือเข้าไปประมาณ 500 เมตร จากนั้นเลี้ยวขวาเข้า ไปอีก 500 เมตร และต้องเดินเท้าไปอีก 600 เมตร เป็นน้ำตกขนาดกลางไหลลงสู่ทะเลสาบ เขื่อนแม่กลอง สภาพป่าสมบูรณ์ ร่มรื่นสวยงามมากในช่วงฤดูฝน
:: น้ำตกเกริงกระเวีย ::
ขึ้นอยู่กับเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ - สังขละบุรี) กิโลเมตรที่ 32–33 ใกล้กับน้ำตกไดช่องถ่อง ห่างจากอำเภอกาญจนบุรีประมาณ 173 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็ก จะมองเห็นสายน้ำแผ่ กระจายไหลมาจากหลายทิศทาง เหมาะสำหรับเป็นจุดพักผ่อนระหว่างการเดินทางไปอำเภอสังขละบุรี สามารถนั่งรถ โดยสารสายกาญจนบุรี - สังขละบุรี จากตัวเมืองมาได้ ค่าโดยสาร 90 บาท ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
:: น้ำตกผาตาด ::
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ในเขตอุทยานแห่งชาติ เขื่อนศรีนครินทร์ ห่างจากอำเภอเมือง140 กิโลเมตร เกิดจากลำห้วยเล็กๆ บริเวณเทือกเขากะลา น้ำตกผาตาดเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมีชั้นน้ำตกลดหลั่นกันไปถึง 3 ชั้น แต่ละชั้น มีความกว้าง ความสูงที่ตระการตา และมีน้ำมากในช่วงปลายฤดูฝน บรรยากาศร่มรื่น มีต้นไม้ปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ การเดินทาง สามารถเดินทางโดย ใช้ทางหลวงหมายเลข 323 ช่วงกิโลเมตรที่ 105–106 โดยเลี้ยวเข้าทางเดียวกับ พุน้ำร้อนหินดาด และอยู่เลยจาก พุน้ำร้อนหินดาดเข้าไปประมาณ 8 กิโลเมตร
:: น้ำตกผาสวรรค์ ::
เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่สวยงามลดหลั่นกันถึง 7 ชั้น และยังคงความสมบูรณ์ของธรรมชาติอยูมาก โดยเฉพาะชั้นที่สูงที่สุด มีความสูงประมาณ 80 เมตร ตัวน้ำตกอยู่ ในป่าลึกต้องอาศัยการเดินเท้าต่ออีก 40 นาที ช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดจะอยู่ใน ช่วงเดือนกรกฎาคม - มกราคม การ เดินทาง อยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 155 กิโลเมตร โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 323 กาญจนบุรี – ทองผาภูมิ บริเวณกิโลเมตรที่ 110 ผ่านบ้านสหกรณ์ นิคมเข้าไปประมาณ 15 กิโลเมตร และเลี้ยวขวาบริเวณทางแยก ดินลูกรังอีก 13 กิโลเมตร หรือใช้เส้นทางเชื่อมต่อจาก น้ำตกผาตาดแล้วเดินเท้าต่ออีก 40 นาที จึงจะถึงตัวน้ำตก หรือ ใช้เส้นทางจากน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ผ่านเหมืองเนินสวรรค์ หมู่บ้านสะพานลาวระยะทางประมาณ 42 กิโลเมตร ถึงทางแยก บริเวณโครงการปลูกป่เลี้ยวซ้ายอีก 13 กิโลเมตร ถึงที่จอดรถเดินเท้าต่ออีก 40 นาทีก็จะถึง ถ้าเดินทางในฤดูฝนควรใช้รถ ขับเคลื่อนสี่ล้อ
:: น้ำตกทุ่งนางครวญ ::
ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านทุ่งนางครวญ ตำบลชะแล ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เป็นน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 7 ชั้น ร่มรื่นสวยงามมาก สภาพน้ำตกยังคงความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมทั่วบริเวณตัวน้ำตกซึ่งเป็น หินปูน แต่ละชั้นมีลักษณะเป็นหน้าผาขนาดสูงใหญ่ บางชั้นสูงกว่า 35 เมตร และมีน้ำไหลตลอดทั้งปี การเดินทาง อยู่ห่างจากจังหวัด กาญจนบุรีประมาณ 190 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางสาย 323 (ทองผาภูมิ-สังขละบุรี) เลี้ยวขวาบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 26 (โดยสังเกตุจากพระพุทธรูปสีขาวที่อยู่บริเวณทางแยก) เดินทางต่อไปอีก 15 กิโลเมตร สภาพถนนเป็นทาง ราดยางสลับกับทางลูกรังอัดแน่น เมื่อถึงหมู่บ้านทุ่งนางครวญ จะมีทางแยกเข้าน้ำตกอีก 3 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินเท้าต่ออีกประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลา 30 นาที จึงจะถึงบริเวณน้ำตกชั้นที่ 1 สภาพถนนเป็นถนนลูกรัง ควรเดินทางโดยรถขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือรถกระบะและควรติดต่อชาวบ้านเพื่อนำทาง
:: ถ้ำกระแซ ::
ห่างจากตัวเมืองประมาณ 55 กิโลเมตร ไป ตามทางหลวงหมายเลข 323 กิโลเมตรที่ 29 – 30 ถ้ำนี้เป็นถ้ำที่เคยเป็นที่พัก ของเชลยศึกเมื่อครั้ง สร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะจากไทยไปพม่า ตัวถ้ำติดกับเส้นทางรถไฟสายกาญจนบุรี – น้ำตก วึ่งเป็นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันสิ้นสุดที่สถานีรถไฟน้ำตก ภายในถ้ำโปร่งและมีพระ พุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ มองจากปากถ้ำมาที่บริเวณทางรถไฟ จะเห็นทิวทัศน์ที่งดงามและมองเห็นแม่น้ำแควน้อย อยู่เบื้องล่าง บริเวณนี้เป็นจุดที่สร้างทางรถไฟยากที่สุด เนื่องจากเส้นทางโค้งเลียบเขา เบื้องล่างเป็นแม่น้ำแควน้อย
:: ถ้ำพระธาตุ ::
อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ห่างจากน้ำตกเอราวัณไปประมาณ 8 กิโลเมตร ห่างจากตัวเมือง 76 กิโลเมตร ภายในมี หินงอก หินย้อยวิจิตรงดงามมาก ที่แปลกคือเป็นหินที่โปร่งแสง ถ้ำมีความยาว 20 เมตร ใช้เวลาชมถ้ำพระธาตุ ประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง การเข้าชมถ้ำพระธาตุ นักท่องเที่ยวจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ณ ที่ทำการ ซึ่งตั้งอยู่เชิงเขาเพื่อขอ ให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้นำทางให้ และควรเดินทางถึงถ้ำก่อนเวลา 15.00 น.
:: ถ้ำแก้วสวรรค์บันดาล ::
ตั้งอยู่ในบริเวณสำนักปฏิบัติธรรม ถ้ำแก้วสวรรค์บันดาล ติดภูเขาเล็กๆ แต่ละถ้ำมีชื่อเรียกตามลักษณะ เช่น ถ้ำบาดาลมี ระดับน้ำ สูงประมาณหัวเข่า ถ้ำพ่อปู่ฤาษี ถ้ำแก้วมรกตมีผนังหินงอกหินย้อยเป็นสีเขียว ถ้ำแก้วสวรรค์ บันดาลและถ้ำแก้ว ภายในแต่ละถ้ำมีหินย้อยรูปทรงต่างๆ งดงามมาก เมื่อกระทบกับแสงไฟ จะสะท้อนแสงแวววาวคล้ายถูกโรยไว้ด้วยกาก เพชร การเข้าไปเที่ยวชมนักท่องเที่ยวควรแต่งกาย ด้วยชุดที่รัดกุม เลือกสวมรองเท้าที่เหมาะสมและต้องใช้ความระมัด ระวังเป็นพิเศษ เพราะบางถ้ำ มีโขดหินที่สูงชัน บางถ้ำต้องใช้วิธีการคลานและมุดไปตามซอกของช่องหิน และบางถ้ำที่มี ระดับ น้ำสูงประมาณหัวเข่า หากต้องการชมให้ครบหมดทุกถ้ำ จะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไป
การเดินทาง ใช้เส้นทาง อำเภอสังขละบุรี - ด่านเจดีย์สามองค์ กิโลเมตรที่ 16 เลี้ยวขวาบริเวณศาลาพักร้อนริมทาง จากนั้นขับรถ ไปตามถนนดินอีกประมาณ 800 เมตร เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางอีก 200 เมตร จะถึงบริเวณสำนักปฏิบัติ ธรรมซึ่งเป็นที่ตั้งของถ้ำแก้วสวรรค์บันดาล นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามข้อมูลของถ้ำได้จากพระสงฆ์ที่ จำวัดอยู่ ณ บริเวณสำนักปฏิบัติธรรมนั้น
:: ถ้ำดาวดึงส์ ::
อยู่ในเขตอำเภอไทรโยค ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 110 กิโลเมตร และห่างจากริมฝั่งแม่น้ำแควน้อยขึ้นไปบนเขา ประมาณ 1 กิโลเมตร การเดินทาง โดยรถยนต์สามารถเดินทางเข้าทางอุทยานแห่งชาติไทรโยค แล้วเลี้ยวซ้ายไปทาง วัดถ้ำดาวดึงส์ประมาณ 2.5 กิโลเมตร ถ้ำดาวดึงส์มีหินงอกหินย้อยที่งดงามรูปต่าง ๆ เช่น โคมระย้า พระปรางค์ และเจดีย์ ภายในถ้ำ มีอากาศโปร่งแต่มืดสนิท ต้องมีไฟฉายหรือตะเกียงไปด้วย และควรมีคนนำทางไป
:: ถ้ำละว้า ::
ห่างจากตัวเมืองประมาณ 75 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ช่วงกิโลเมตรที่ 59 – 60 ต้องข้ามฝั่งแม่น้ำ แควน้อย สามารถเช่า เหมาเรือจากท่าเรือปากแซงข้ามไป ในราคาประมาณ 800 – 1,000 บาท นั่งได้ 10 – 12 คน ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถ้ำละว้าเป็นถ้าที่สวยงามมาก ค้นพบโดยนายเผิน ดอกเข็ม เมื่อปี พ.ศ. 2496 บริเวณปากถ้ำ ไม่กว้างนัก แต่ภายในถ้ำกว้างขวางใหญ่โตมาก แบ่งเป็นห้องต่างๆ เช่น ห้องท้องพระโรง ห้องดนตรี ห้องม่าน ห้องพระปรางค์ แต่ละห้องมีความงดงามของหินย้อย แตกต่างกันออกไป บ้างเหมือนม่านโรงละคร บ้างมีประกาย ระยิบระยับราวกับโรยด้วยกากเพชร
:: ถ้ำวังบาดาล ::
หรือเรียกว่า "ถ้ำสวรรค์วังบาดาล" อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ตั้งอยู่ตำบลท่าเสา ห่างจากตัวเมืองประมาณ 63 กิโลเมตร อยู่ด้านหลังน้ำตกไทรโยคน้อย มีป้ายบอกทางเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร จะพบหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ บริเวณ หน่วยพิทักษ์อุทยานฯสามารถชมต้นน้ำตกไทรโยค การไปชมถ้ำต้องเดินเข้าไปอีกประมาณ 1,500 เมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ตลอดเส้นทางมีป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับสภาพธรรมชาติ ถ้ำวังบาดาลมีความยาว 500 เมตร เป็นถ้ำขนาดเล็กแต่ลึก มาก ปากถ้ำเป็นช่องเล็กๆ แต่เข้าไปได้ทีละคน ลักษณะเป็นเป็นถ้ำหินปูน 2 ชั้น โดยชั้นบนจะมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม แบ่งเป็นห้องหลายห้อง เช่น ห้องม่านพระจันทร์ มีหินงอกหินย้อยลงมาคล้ายกับม่าน ห้องเข็มนารายณ์ มีลักษณะคล้ายเข็ม แท่งใหญ่ย้อยลงมาสวยงามมาก ห้องเข็มนารายณ์ มีลักษณะคล้ายเข็มแท่งใหญ่ย้อยลงมา สวยงามมาก ส่วนชั้นล่างมีธารน้ำ ไหลผ่าน ลักษณะเหมือนอุโมงค์น้ำใต้หินขนาดใหญ่
:: ถ้ำมะเดื่อ ::
อยู่ในบริเวณวัดถ้ำมะเดื่อ ตำบลบ้านเก่า ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 40 กิโลเมตร
การเดินทาง จากป้อมตำรวจบ้านเก่า ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแควน้อย ไปตามทางหลวงหมายเลข 3445 ประมาณ 8 กิโลเมตร ถึงค่ายไทรโยค เข้าไปในค่ายไทรโยคประมาณ 3 กิโลเมตร เมื่อเดินทางไปควรติดต่อกับทางวัดโดยทางวัด ได้ติดตั้งไฟไว้เพื่อให้เห็นสภาพภายในถ้ำที่มีเนื้อที่ กว้างขวางมีหินงอกหินย้อยสวยงามแตกต่างกันไป ต้องใช้เวลาชม ประมาณ 1 ชั่วโมง
:: สะพานข้ามแม่น้ำแคว ::
ตั้งอยู่ที่ตำบลท่ามะขาม ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือตามทางหลวงหมายเลข 323 ประมาณ 4 กิโลเมตร แยกซ้าย ประมาณ 400 เมตร มีป้ายชี้บอกทางไว้ชัดเจน เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นสมัยสงคราม โลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลย ศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดาและ นิวซีแลนด์ ประมาณ 61,700 คนและกรรมกรชาวจีน ญวน ชวา มลายู ไทย พม่า อินเดียอีกจำนวน มากมาก่อสร้างทาง รถไฟสายยุทธศาสตร์เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า ซึ่งเส้นทางช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่จึงต้องมีการ สร้างสะพานขึ้น การสร้าง สะพานและทางรถไฟสายนี้เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงคราม และโรคภัย ตลอดจนการขาดแคลนอาหารทำให้เชลยศึกจำนวนหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง นอกจากนี้ ที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว มีบริการรถราง Fairmong ทุกวัน โดยวันธรรมดาจะมีตั้งแต่เวลา 08.00-19.30 น., 11.20-14.00 น., 15.00-16.00 น., และ 18.00-18.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-09.30 น., 11.20-14.00 น., และ18.00-18.30 น. ค่าโดยสารคนละ 20 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3451 1200, 0 3451 2500
:: สะพานมอญ ::
อยู่ในตัวอำเภอสังขละบุรี เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยมีความยาวถึง 850 เมตร สร้างข้ามลำน้ำ ซองกาเลียสำหรับให้ประชาชนฝั่งตัวอำเภอสังขละบุรีและฝั่งหมู่บ้านชาวมอญเดิน ข้ามสัญจร ไปมา บริเวณสะพานแห่งนี้เป็นจุดชมวิวทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ์ที่สวยงามสามารถมอง เห็นลำห้วยสาย ต่างๆ คือ ซองกาเลีย บีคลี่ และรันตีที่ไหลมารวมกันเป็นสามประสบ
:: สวนเวลารำลึก ::
เป็นสวนที่อยู่ภายในเขื่อนศรีนครินทร์ มีพื้นที่กว่า 30 ไร่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้สร้างขึ้นมาเพื่อเฉลิม พระเกียรติและรำลึก ถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในวโรกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเจริญพระชนมายุครบ 90 พรรษา เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2533 สวนเวลารำลึกนี้สร้างเป็นสวนประติมากรรมบอกเวลามี สัญลักษณ์รูปนาฬิกาแดด เป็นเครื่องเตือนใจให้รำลึกถึงคุณค่าแห่งชีวิตที่ก้าวล่วงเวลาทุกนาที ที่ผ่านไป สมดังพระราชหฤทัยของสมเด็จย่าที่ทรง ตระหนักเป็นแน่แท้ว่า “เวลาเป็นของมีค่า” ซึ่งควรจะใช้เวลาให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ ไม่ควรปล่อยให้ล่วงเลยไปอย่าง ไร้ประโยชน์ บริเวณลานโดยรอบจะมีที่นั่งพักผ่อนเพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงามของเขื่อนศรี นครินทร์
:: สวนอรอนงค์ชวนชม ::
ตั้งอยู่ตรงข้ามอนามัยตลาดเขต อำเภอพนมทวน ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 40 กิโลเมตร ไปตามถนนสาย กาญจนบุรี - สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 324) เป็นสวนเพาะพันธุ์ต้นชวนชมที่ใหญ่ ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี บนพื้นที่ 40 ไร่ มีชวนชมหลากหลายพันธุ์ให้ดอกชวนชมสีสัน สดสวยงาม นักท่องเที่ยวและผู้สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชม และเลือกซื้อชวนชมพันธุ์ดีไปปลูก เป็นไม้ดอกไม้ประดับบ้านได้ โดยติดต่อ คุณอรอนงค์ โทร. 0 3457 1193,
0 1856 7799, 0 1905 5299 สอบถามการท่องเที่ยวเพิ่มเติม ด้านการท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี โทร. 0 3451 1254 ต่อ 13, 0 3451 2924
:: สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ (สวนหิน) ::
ตั้งอยู่ที่ทุ่งนาคราช ตำบลหนองหญ้า ในบริเวณวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกาญจนบุรี มีเนื้อที่ 600 ไร่ ประชาชนทั่วไป เรียกว่า สวนหินหรืออุทยานหิน บริเวณโดยรอบมีหินงอกขนาดเล็กใหญ่ลักษณะต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นเอง ตามธรรมชาติตั้งเรียง รายอยู่เป็นจำนวนมากอย่างมีระเบียบและยังเป็นแหล่งรวบรวม พันธุ์ไม้ป่าชนิดต่างๆ อีกด้วย
การเดินทาง สามารถเดินทางจากถนนแสงชูโต ข้ามสะพานสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร ไปอีกประมาณ 9 กิโลเมตร โดยผ่านสุสานทหารสัมพันธมิตรช่องไก่ วัดถ้ำเขาปูนไปไม่ไกลนักจะพบสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์
:: เที่ยวป่าสังขละบุรี ::
เป็นบริการนำเที่ยวของสถานที่พักในเขตอำเภอสังขละบุรี โดยจัดให้นักท่องเที่ยวล่องเรือไปตามลำน้ำซองกะเลีย ต่อด้วยการ นั่งช้างเที่ยวป่าและล่องแก่ง ผู้สนใจติดต่อล่วงหน้า ที่บริษัทนำเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงาน ภาคกลางเขต 1 โทร. 0 3451 1200, 0 251 2500
:: พุน้ำร้อนหินดาด ::
เดิมเรียกว่า น้ำพุร้อนกุยมั่ง เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติริมลำธาร อุณหภูมิประมาณ 45 - 55 องศาเซลเซียส ค้นพบโดยทหาร ญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้สร้างเป็นบ่อซีเมนต์ขึ้น 2 บ่อ เชื่อกันว่าน้ำแร่จากบ่อน้ำร้อนแห่งนี้ มีสรรพคุณในการ รักษาโรคภัยไข้เจ็บหลายอย่าง เช่น โรคเหน็บชา ไขข้ออักเสบ นักท่องเที่ยวสามารถลงอาบน้ำในบ่อได้ และยังมีลำธารน้ำเย็น ไหลอยู่ด้านล่างบ่อน้ำร้อน
การเดินทาง สามารถเดินทางไป ตามทางหลวงหมายเลข 323 บริเวณกิโลเมตรที่ 105 – 106 อยู่ห่างจากตัวเมือง กาญจนบุรี 135 กิโลเมตร
:: เหมืองปิล็อก ::
ตั้งอยู่ในตำบลปิล็อก ซึ่งอยู่ห่างจาก อำเภอทองผาภูมิไปทางทิศตะวันตกประมาณ 70 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 3272 ที่นี่เคยมีการทำเหมืองแร่ดีบุก วุลเฟรม กันมากบนเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่าง ไทยกับพม่า มีอากาศ ดีโดยเฉพาะฤดูหนาว สามารถชมทัศนียภาพทะเลอันดามันที่จุดชมวิวไทย - พม่า ระหว่างทางสามารถแวะชม "ปิล็อกฮิลล์" สถานที่ปลูกไม้ผลและไม้ประดับเมืองหนาว ซึ่งอยู่ห่างจากทองผาภูมิประมาณ 32 กิโลเมตร อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ซึ่งมีบ้านบนต้นไม้ ที่ "บ้านอีต่อง" ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติด กับแนวชายแดนของประเทศพม่า มีน้ำตกสวยงามหลายแห่งซึ่งการจะเข้าถึงน้ำตก จะต้องใช้การ เดินเท้า เช่น น้ำตกจ๊อกกะดิ่น และน้ำตกเจ็ดมิตร นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถกางเต็นท์ได้ ที่บริเวณ เนินช้างศึก และชมทัศนียภาพของบ้านอีต่อง (ประเทศพม่า) ได้ที่เนินเสาธง สอ
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|